คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (อังกฤษ: Faculty of Medicine, Khon Kaen University) เป็นส่วนราชการไทยระดับคณะวิชาลำดับที่ 6 ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นโรงเรียนแพทย์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นลำดับที่ 5 ของประเทศไทย เป็นโรงแพทย์แห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภาและเป็นแห่งที่ 6 ของประเทศถัดจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, คณะแพทยศาสตร์ มช., คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี และคณะแพทยศาสตร์ มอ. มีสถานที่ปฏิบัติการคือโรงพยาบาลศรีนครินทร์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มการพิจารณาจัดตั้งขึ้นเมื่อในปี พ.ศ. 2511 ศาสตราจารย์ พิมล กลกิจ ได้นำเสนอโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ สภามหาวิทยาลัยขอนแก่น รับหลักการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อพิจารณารายละเอียด วิธีการดำเนินงาน และได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลอิสราเอล ส่งผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ รวม 5 คน มาจัดการทำ Master plan ของศูนย์แพทยศาสตร์
สภามหาวิทยาลัยขอนแก่น มีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับหลักการ และแต่งตั้งกรรมการพิจารณารายละเอียดการจัดตั้งศูนย์แพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2514 และรับหลักการโครงร่างการจัดตั้งศูนย์แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามที่เสนอกับให้เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป ซึ่งกรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติได้เสนอไปแล้วจนได้บรรจุเข้าใน "แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 3" (พ.ศ. 2515 - 2519)
คณะกรรมการบริหารสภาการศึกษาแห่งชาติ อนุมัติการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2515 และประกาศจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์อย่างเป็นทางการขึ้น เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2515 โดยมีนายแพทย์ กวี ทังสุบุตร รักษาการในตำแหน่งคณบดีคณะแพทยศาสตร์ และเป็นผู้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์ เริ่มรับนักศึกษาแพทย์รุ่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2517 โดยคัดจากคณะวิทยาศาสตร์ - อักษรศาสตร์ จำนวน 16 คน เพื่อมาเรียนปีที่สองในคณะแพทยศาสตร์ และเปิดรับสมัครรุ่นที่ 2 เป็นจำนวน 44 คน ในปี พ.ศ. 2518 มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นชอบในการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลนิวซีแลนด์ ในการออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโรงพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเริ่มเปิดบริการผู้ป่วยนอกที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ อาคารชั่วคราวบริเวณสีฐาน โดยมีรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ นภดล ทองโสภิต ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลคนแรก
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มก่อสร้างในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2518 โดยบริษัท Llewelyn-Davies Weeks Forester-Walkers and Bor. แห่งประเทศอังกฤษ เป็นผู้ออกแบบ และบริษัท Kingston Reynolds Thom & Allardice Limited (KRTA) แห่งประเทศนิวซีแลนด์เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง และเป็นที่ปรึกษาการวางแผนผังออกแบบสร้างคลังเลือดกลาง เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้เสด็จพระราชดำเนินวางศิลาฤกษ์อาคารโรงพยาบาล ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ชื่อว่าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ (SRINAGARIND HOSPITAL) โรงพยาบาลแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2521 และเริ่มเปิดบริการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2522 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเจิมและทรงพระสุหร่าย พระพุทธชินราชจำลอง ณ พระวิหาร โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์โดยเสด็จด้วย สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ได้เสด็จมาเบิกพระเนตร และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในพระพุทธ ชินราชจำลอง และได้พระราชทานนามว่า "พระพุทธกวี กิตติวรรณ ทังสุบุตร นิมิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น" สถิตย์มังคลากรมุมินทร์ เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2523
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเททองหล่อพระรูปสมเด็จพระราชบิดาและสมเด็จพระศรีนครินทรา ณ บริเวณวัดเบญจมบพิตร โดยใช้เงินที่นักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาใน ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้ร่วมกันออกรับบริจาคจากประชาชน โดยออกขายธงวันมหิดล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 เป็นต้นมา ได้รวบรวมเงินได้ประมาณ 300,000 บาท เศษ และได้อัญเชิญพระรูปจำลองสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ขึ้นพระดิษฐานบนแท่นหน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2526
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2532 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์ และได้ทรงแนะนำให้ก่อสร้างอาคารสูงขึ้นกว่าเดิม โดยนายประมวล สภาวสุ ได้สนองต่อพระราชกระแสได้แก้ไขแบบก่อสร้าง อาคารจาก 2 ชั้น เป็น 4 ชั้น และคณะแพทยศาสตร์ ได้ขอพระราชทานนามอาคารหลังนี้ว่า "อาคาร 89 พรรษาสมเด็จย่า" และในอาคารหลังนี้ ทางคณะได้แบ่งหอผู้ป่วย จำนวน 1 หอ เป็นหอผู้ ป่วยสำหรับสงฆ์อาพาธโดยเฉพาะ โดยประสานงานกับพระอาจารย์ทูล ขิปปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และบรรดาศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมกันจัดหากองทุนถวายแก่หลวงปู่เทศก์ เทศรังสี ซึ่งได้บริจาคเงิน 9 ล้านบาท เป็นงบประมาณซื้อครุภัณฑ์ ส่วนเงินที่เหลือให้จัดเป็นกองทุนดำเนินการหอสงฆ์อาพาธต่อไป และหลวงปู่เทศก์ เทศรังสี ยังได้อนุญาตให้ใช้ชื่อหอ สงฆ์นี้ว่า หองสงฆ์อาพาธ พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ (หลวงปู่เทศก์ เทศรังสี) นอกจากนี้ ฯพณฯ ประมวล สภาวสุ, ศาสตราจารย์ นายแพทย์ นี รักษ์พลเมือง, คุณวาริน พูนศิริวงศ์, คุณผานิต พูนศิริวงศ์ และคุณหญิง สุเนตร พงษ์โสภณ ได้จัดการแสดงคอนเสริตและหาเงินบริจาคเพื่อเป็นเงิน กองทุน จัดซื้อุปกรณ์และเครื่องมือ ผ่าตัดเป็นเงินอีก 50 ล้านบาท
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย และอันดับที่ 351 - 400 ของโลก
หมายเหตุ คำนำหน้านามของผู้ดำรงตำแหน่งคณบดี และผู้รักษาการแทนคณบดี เป็นคำนำหน้านามตามตำแหน่งทางวิชาการในขณะนั้น
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/คณะแพทยศาสตร์_มหาวิทยาลัยขอนแก่น